แบตเตอรี่รถยนต์หมด แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม เกิดจากอะไร
คงไม่มีใครอยากจะเผชิญกับปัญหา แบตเตอรี่รถยนต์หมด อายุกลางคัน หรือแบตเสื่อม เพราะหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแลให้ดี อาจเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น นั่นคือรถดับกลางทาง โดยเฉพาะหากไปดับในเส้นทางที่ไม่ค่อยมีรถผ่านด้วยแล้ว เดือดร้อนและอาจเสียการงานได้ ดังนั้น การตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์จึงเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น
โดยทั่วไป แบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 1.5 – 3 ปี แล้วจะเสื่อมลง แต่มีอยู่เหมือนกันที่แบตเสื่อมก่อนถึงเวลา ( หรือหากรถยนต์ของท่านจอดทิ้งไวนานเกินไปก็สามารถทำให้เเบตรถยนต์เสื่อมได้อีกด้วย ส่วนวีธีเเก้ไขก็สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ ปัญหาเเบตเตอรี่รถยนต์ ) ซึ่งทำให้บางครั้งต้องอาศัยการสังเกตของเจ้าของรถเองว่า แบตเสื่อมแล้วหรือไม่ อะไรที่เป็นเหตุให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมก่อนอายุการใช้งานได้ หรือ ลองมาดูกัน
สาเหตุที่ทำให้ แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม ก่อนกำหนด
- Under Charging ไดชาร์จ ชาร์จไฟได้น้อยกว่า 13.6 โวลต์ ซึ่งการทำหน้าที่ผิดปกติของไดชาร์จนี้จะทำให้เกิดคราบขาวที่แผ่นธาตุของตัวแบต และถ้าหากปล่อยให้การประจุไฟเป็นไปได้ยากขึ้นเรื่อยๆ แผ่นธาตุในแบตก็จะเสื่อมสภาพ ในที่สุดก็เสีย
- Over Charging น้อยไปก็ไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม มากไปก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะถ้าหากไดชาร์จ ชาร์จไฟมากเกินไป จะเป็นเหตุให้
2.1 น้ำกลั่นเปลี่ยนสภาวะกลายเป็นแก๊สมาก ทำให้น้ำกลั่นลดระดับลง
2.2 อุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าปกติ ทำให้แผ่นธาตุเสื่อม
2.3 และมีผลต่อเนื่องทำให้ผงตะกั่วเกิดการสึกกร่อน
2.4 แผ่นธาตุโค้งงอ
2.5 อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลง
- Short Circuit เป็นสภาวะที่แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม จากการลัดวงจรในช่องแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดภาวะต่อไปนี้
3.1 ส่วนล่างของหม้อแบตเตอรี่ มีตะกอนเกิดขึ้นมากเกินไป
3.2 มีการเสื่อมสภาพของแผ่นกั้นระหว่างแผ่นธาตุบวก และแผ่นธาตุลบ หรือแผ่นธาตุเกิดจากการแตกหัก
- ปัญหาจากระบบไฟในรถ เป็นอีกเรื่องที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมลง ซึ่งปัญหานั้นเกิดจาก
4.1 ใช้อุปกรณ์เสริมมากเกินไป เช่น มีเครื่องเสียงติดรถ มีไฟตัดหมอก การใช้อุปกรณ์เสริมมากๆ ก็เป็นเหตุทำให้กำลังไฟไม่พอ
4.2 เจ้าของรถมีการเปลี่ยนแปลงขนาดของแบตเตอรี่ที่ไม่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์เสริมที่ใช้ไฟฟ้าในรถของตัวเอง
4.3 การลัดวงจรของสวิทซ์ไฟต่างๆในรถ
4.4 ประสิทธิภาพการทำงานของไดชาร์จไม่เต็มที่
- Impurity เพราะมีสารอันตรายปะปนในหม้อแบตเตอรี่ จึงทำให้ แบตเตอรี่เสื่อม ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าเกิดจาก
5.1 มีการใช้กรดที่หย่อนคุณภาพ
5.2 มีการเติมน้ำกลั่นที่ไม่บริสุทธิ์ลงไป
5.3 เกิดจากการเติมน้ำกลั่นสีหรือสารหล่อเย็นลงไป
- Sulfation การเกิดซัลเฟตสีขาวเกาะติดอยู่ที่บริเวณแผ่นธาตุ ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม ซึ่งการเกิดซัลเฟตเกาะนั้น เกิดจาก
6.1 ปล่อยรถทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ใช้ พลอยทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้ใช้งานไปด้วย นานเข้าก็มีซัลเฟตเกาะที่แผ่นธาตุ
6.2 เป็นผลต่อเนื่องจากการประจุไฟที่น้อยเกินไป (Under Charging)
6.3 น้ำกรดน้อยกว่าระดับมาตรฐาน ทำให้แผ่นธาตุโผล่พ้นน้ำกรดขึ้นมา ทำให้ซัลเฟตเกาะ
ข้อสังเกตกรณีแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อม
- รถยนต์เริ่มสตาร์ทติดยาก และมีเสียงแปลกๆ
- ไฟหน้าไม่ค่อยสว่าง
- ระบบกระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง
- ระบบไฟฟ้าในรถทำงานผิดปกติ
- นาฬิกาในรถเดินไม่ตรง ปรับไปแล้ว เดี๋ยวอีกพักก็ไม่ตรงอีก
ในรถยนต์บางรุ่น บางยี่ห้อ จะมีสัญญาณเตือนเอาไว้ สามารถดูได้ สะดวกและไม่เกิดปัญหารถดับกลางทาง ปัญหาคือ ต้องดูบ่อยๆ อย่าคิดไปเองว่า แบตใหม่ ไม่น่ามีปัญหา หรือกรณีที่ไม่มีสัญญาณเตือน ก็ต้องหมั่นเช็คเช่นกัน หรือถ้าละเอียดในการสังเกตลางบอกเหตุและไม่ดูเบา ต้องรีบปรับแก้ตามสภาพ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็พอจะผ่านเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างรถดับกลางทางไปได้บ้าง ซึ่งหากรถดับกลางทางจริงๆ และไม่มีใครให้พ่วงแบตเตอรี่ เนื่องจากยังมีคนใช้รถอีกจำนวนไม่น้อยมีความเชื่อผิดๆ ว่า การจั๊มแบตหรือพ่วงแบตนั้น ทำให้ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ของตัวเองต่ำลงไปละก็ ถึงยามนั้นคงเดือดร้อนอย่างที่ไม่ควรจะเป็น
ทางที่ดีคือ ดูแลและสังเกตแบตเตอรี่รถยนต์อยู่เสมอ อย่าปล่อยให้เกิดปัญหา เพราะการหวังพึ่งคนอื่น อาจไม่ได้ดั่งใจคิดเสมอไป – (ถ้าคุณสนใจเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่นิยมที่สุดในไทย >> แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี)