เบาะหนังแท้ ควรดูแลและทำความสะอาดอย่างไร

0
14761

เบาะหนังแท้ ควรดูแลและทำความสะอาดอย่างไร


ถ้าเบาะรถยนต์ของเราเป็นเบาะที่มีคุณภาพ มักทำจากหนังแท้ มีคุณภาพดี ซึ่งแน่นอนว่าเบาะหนังแท้จะมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับเบาะรถที่ทำจากวัสดุอื่น จุดเด่นของเบาะรถยนต์ที่ทำจากหนังแท้ก็คือ ใช้ได้ทน ดูดี ภูมิฐาน เสริมให้รถดูมีคลาสขึ้น อีกทั้งคุณสมบัติของหนังแท้เองก็มีดีตรงที่ไม่ดูดซับเก็บความร้อนไว้ เนื่องจากหนังจะเก็บความชื้นได้ดี แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย เพราะหนังแท้นั้นจะเกิดเสียงเวลาคนนั่งขยับตัวก็น่ารำคาญอยู่เหมือนกัน แต่โดยรวมแล้ว เบาะหนังแท้ก็ยังเลอค่าอยู่ดี และต้องยอมรับว่า ของดีย่อมมีราคาแพง ดังนั้น เมื่อตัดสินใจแล้วที่จะใช้เบาะหนังแท้ ก็ควรจะได้ศึกษาวิธีดูแลรักษาเพื่อให้เบาะหนังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน พอเหมาะกับราคาและยังสวยสม แม้จะใช้ไปนานๆ มาลองดูวิธีทำความสะอาดกันดีกว่า                                     


อุปกรณ์และวัสดุทำความสะอาดเบาะหนังแท้ 

เบาะหนังแท้

แม้ว่าเบาะหนังแท้จะเป็นวัสดุที่ดี ต้องการการดูแลอย่างเอาใจใส่ แต่การดูแลนั้น ไม่ถึงขนาดต้องหาวัสดุอุปกรณ์พิเศษมาดูแลเลย แค่ของใช้ในบ้านที่มีอยู่ก็สามารถนำมาเป็นอุปกรณ์ในการดูแลได้แล้ว ถูกและดีด้วย

  1.  สบู่เหลวหรือ ครีมอาบน้ำชนิดอ่อน เน้นที่ไม่มีกลิ่น เตรียมใส่ในภาชนะขนาดเหมาะมือ ผสมสบู่กับน้ำเพียงเล็ก  น้อย เตรียมเอาไว้
  2.  แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มๆ แม้แต่ของใช้แล้วที่ยังอยู่ในสภาพดี และมีขนแปรงนุ่มก็ใช้ได้ หรือจะซื้อใหม่ไว้ใช้ทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะก็ดี ยิ่งในปัจจุบันแปรงสีฟันที่ขนแปรงนุ่มและราคาไม่แพงก็มีหลายยี่ห้อ
  3. ผ้าขนหนูสะอาด ขนาดเหมาะมือ 2-3 ผืน นี่ก็เช่นกัน ใหม่ หรือใช้แล้วแต่ซักสะอาดก็ได้
  4. สเตคลีนหรือน้ำยาทำความสะอาดหนัง เฉพาะกรณีที่เบาะหนังสกปรกมาก อาจต้องเคลียร์ความสกปรกเบื้องต้นออกก่อน ซึ่งครีมหรือน้ำยาทำความสะอาดหนังแท้โดยเฉพาะจะใช้ได้ดี เพราะผู้ผลิตผลิตออกมาเพื่อเจาะจงงานที่ใช้ และไม่ทำลายหนังแท้
  5. วาสลินแท้หรือโลชั่นบำรุงผิวชนิดต่างๆ เอาไว้สำหรับเคลือบเบาะหนังแท้หลังจากทำความสะอาดเสร็จ

ขั้นตอนการทำความสะอาดเบาะหนังแท้

เมื่อเตรียมอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มทำความสะอาดเบาะหนังแท้กัน

เบาะหนังแท้

  1. หากสภาพของเบาะหนังมีรอยเปื้อน ให้ลงสเตคลีนหรือน้ำยาทำความสะอาดหนังเคลียร์ให้ทั่วๆ โดยใช้ผ้าถูวนเบาๆ บริเวณที่เปื้อน จะเห็นความสกปรกปนกับครีมที่ทำความสะอาด แล้วใช้ผ้าเช็ดอีกครั้ง

  2. ในส่วนการทำความสะอาดทั่วๆ ไป ให้ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเปล่าบิดให้หมาดแล้วเช็ดที่เบาะให้ทั่ว เทคนิคการทำผ้าหมาดนั้น ให้พับครึ่งผ้าขนหนู แล้วจุ่มผ้าลงในน้ำเปล่า เพียง 1 ส่วน 3 ของผ้า จากนั้นให้ม้วนผ้าเพื่อให้น้ำใน 1 ส่วน 3 ซึมเข้าไปในผ้าส่วนที่แห้ง ทำเช่นนี้จะได้ผ้าหมาดๆ ทั้งผืน โดยไม่ต้องออกแรงบิด

  3. ใช้แปรงสีฟันใหม่ขนนุ่มหรือแปรงเก่าสภาพดีที่เตรียมไว้ ชุบกับน้ำยาที่เราผสมไว้ แตะที่เบาะหนังไม่ต้องกดแรง แล้วแปรงวนเป็นวงกลม เนื่องจากส่วนที่สกปรกมากๆ เราใช้สเตคลีนหรือน้ำยาทำความสะอาดไปแล้วระดับหนึ่ง ส่วนที่เหลือจึงไม่ใช่หนังที่สกปรกมาก การทำความสะอาดจะง่ายขึ้น อย่าลงแรงมาก เดี๋ยวหนังแท้จะเสียหาย อย่าลืม ทำความสะอาดในบริเวณที่สกปรกตามร่องหนังที่เบาะด้วย

  4. เมื่อทำความสะอาดด้วยแปรงจนทั่วแล้ว จึงใช้ผ้าขนหนูหมาดที่เตรียมไว้มาเช็ด  อนึ่ง ในส่วนที่ไม่ได้สกปรกนั้น ผ้าขนหนูที่เราทำเป็นผ้าหมาดๆ ก็เพียงพอที่จะเช็ดฝุ่นที่เกาะอยู่กับเบาะหนังได้

  1. สุดท้าย ให้ใช้ผ้าขนหนูหมาดๆ เช็ดซ้ำให้ทั่วเบาะหนังอีกครั้งหนึ่ง สำรวจความสะอาดของเบาะให้สม่ำเสมออีกครั้ง แล้วเปิดประตูรถผึ่งลม รอให้เบาะแห้ง

  2. รักษาสภาพหนังด้วยการใช้วาสลินแท้หรือพวกเบบี้โลชั่น มาทาเคลือบเบาะหนังแท้ ซึ่งวาสลินนี้จะดีกว่าการใช้น้ำยาเคลือบซึ่งเป็นสารเคมี เพราะสารเคมีนั้นมีกลิ่นและส่วนผสมที่เป็นพิษ อาจมีผลต่อระบบทางเดินหายใจเมื่อเรานั่งรถในครั้งต่อๆ ไป ไม่เฉพาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ซึ่งมีผลมากกว่าปกติอยู่แล้ว

ข้อควรระวังเมื่อใช้เบาะหนังในรถยนต์

  1. อย่าให้เบาะโดนน้ำหรือถูกความชื้น เนื่องจากหนังแท้มีคุณสมบัติในการดูดซึมน้ำได้เป็นอย่างดี หากปล่อยให้โดนน้ำหรือชื้น อาจทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย และทำให้เบาะเกิดกลิ่นเหม็นอับได้
  2. อย่าให้ถูกแสงแดดนานๆ เพราะรังสีอัลตราไวโอเล็ตจากแสงแดดจะทำให้เบาะหนังแท้กรอบและเสียหายได้
  3. หากทำความสะอาดเบาะหนังด้วยน้ำยา หรือใช้น้ำยาเคลือบเบาะหนังแท้บ่อยเกินไป เพราะว่าน้ำยาต่างๆ ที่ฝังตัวในหนังแท้เพื่อจะทำให้หนังนุ่มและดูใหม่นั้น เมื่อน้ำยาเสื่อมสภาพลงไป จะกลายเป็นสารที่มีความหนืด ซึ่งจะทำให้หนังแข็งขึ้น ต้องทาซ้ำใหม่เพื่อให้กลับมานุ่มอีก

และเมื่อหนังแท้นั้นแข็งๆ นุ่มๆ สลับกัน บ่อยๆ หนังจะเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆ และในที่สุดก็จะเสียไปเลย ไม่สามารถกลับมานุ่มได้อีก