ไฟเตือนแบตเตอรี่ รถยนต์ มันคือ….
ไฟเตือนแบตเตอรี่ ขึ้นโชว์ หมายถึง แบตเตอรี่ รถยนต์ของเรากำลังมีปัญหาใช่มั้ย ? เราจะยังขับรถต่อไปได้หรือเปล่า ? หรือว่าจะต้องวิ่งเข้าร้านเพื่อเปลี่ยนแบตอย่างเร่งด่วน แล้วถ้ายังไม่เปลี่ยน ขับต่อไปเรื่อยๆ จะมีอันตรายเกิดขึ้นหรือไม่
ถ้าเราไม่รู้ เพียงเห็นไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ที่โชว์อยู่บนหน้าจอโชว์ขึ้น เชื่อแน่ว่า มันมาพร้อมกับอารมณ์วิตก ยิ่งถ้าขณะที่กำลังขับรถอยู่นั้น ไม่มีร้านจำหน่ายแบตเตอรี่รถยนต์ละก็ … คงใจคอไม่ดีกันบ้าง แต่…ถ้าเรารู้ว่า อะไรทำให้ไฟเตือนแบตเตอรี่โชว์ขึ้นแล้ว เราจะแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปอย่างมีสติ มาศึกษาเรื่องนี้กันดีกว่า จะได้ขับรถอย่างมืออาชีพ ไม่พลาดต้องจ่ายเงินโดยไม่จำเป็น อย่างที่บางคน พอเห็นไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ กระพริบขึ้นมา ก็เข้าใจว่า แบตเตอรี่รถยนต์กำลังมีปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และรีบหาร้านเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ทันทีแล้วเราจะเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ ไหนดี หล่ะ ถึงจะเหมาะสมกับเรารถ
ไฟเตือนแบตเตอรี่ เกิดขึ้นเมื่อใดบ้าง
สัญญาณไฟเตือนแบตเตอรี่ ไม่ใช่สัญญาณอันตรายจนต้องตื่นเต้นรีบหาที่เปลี่ยนแบตเสมอไป เพราะปกติแล้ว เพียงแค่บิดกุญแจในจังหวะแรก ก็จะมีสัญญาณไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ขึ้นแล้ว แต่ต้องเป็นสัญญาณสว่างแบบนิ่ง ไม่กระพริบ และเมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติด ทำงานแบบต่อเนื่องแล้ว ไฟเตือนจะดับลง แต่ถ้าในระหว่างขับรถอยู่ เกิดมีไฟเตือนรูปแบตเตอรี่ สว่างขึ้นอีก อันนี้แหละถึงต้องมาวิเคราะห์กันว่า เกิดอะไรขึ้น อันตรายหรือไม่
ไฟเตือนแบตเตอรี่ กระพริบ
หากไฟแบตที่เตือนขึ้นมา เป็นไฟกระพริบ นั่นแสดงว่าระบบไฟชาร์จมีปัญหา ให้รีบตรวจเช็คระบบไฟชาร์จได้เลย ซึ่งปัญหาที่พบนั้น อาจพบเหตุดังต่อไปนี้
- แปรงถ่านหมด เร็กกูเลเตอร์เสีย ขดลวดสเตอร์หรือทุ่นโรเตอร์ไหม้
- สายพานไดชาร์จ เกิดหย่อนหรือขาด
- ระบบไฟมีปัญหา เนื่องจากฟิวส์หรือสายไฟขาด
กรณีที่ตรวจเช็คแล้ว สายพานไม่ได้ขาด แปลว่าปัญหาเกิดจากระบบไดชาร์จเสีย กรณีเช่นนี้มักจะมีไฟฟ้าสำรองในแบตเตอรี่ อยู่ ทำให้สามารถขับต่อไปได้ในระยะทางสั้นๆ 5-10 กิโลเมตร แล้วแต่ขนาดของแบตที่ใช้ ซึ่งถ้าจำเป็นต้องขับรถไปต่อ ก็ให้ปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าลงให้หมด เช่น ปิดแอร์ ปิดเครื่องเสียง เป็นการลดการใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ จะได้สามารถนำรถไปซ่อมที่ศูนย์บริการที่อยู่ใกล้ๆได้
แต่ปัญหาเหล่านี้ สามารถป้องกันได้ตั้งแต่ก่อนใช้รถ หากมีการตรวจสภาพของไดชาร์จ สายพาน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งมีการไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการ ตามระยะเวลาที่คู่มือรถกำหนดไว้ ดูแลดี โอกาสเกิดปัญหาแบบฉุกเฉินก็น้อยลงไป
ไฟเตือนแบตเตอรี่ขึ้นชั่วคราว
กรณีไฟเตือนขึ้นชั่วคราวแล้วก็ดับไป อาจจะเกิดขึ้นได้เหมือนกัน เช่น การขับรถในช่วงที่ฝนตกหนักๆ บางท่านอาจเคยมีปัญหาจู่ๆ ไฟแบตเตอรี่ก็เตือน แต่ยังอยู่ระหว่างทาง ร้านซ่อมก็ไม่มี เลยแก้ปัญหาด้วยการปิดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ไฟ จำพวกที่ตัดได้ เช่น แอร์ เครื่องเสียง และสามารถขับประคองไปได้ ทั้งนี้ ก็อาจเกิดจากสาเหตุ น้ำเข้าไดชาร์จ ทำให้ไฟแบตเตือนขึ้น แต่พอประคองขับไปเรื่อยๆ ถึงช่วงที่น้ำแห้ง ไฟเตือนอาจจะดับเองได้ เนื่องจาก เวลาที่น้ำกระเด็นไปโดนสายพาน จะทำให้ลื่น เพราะโดยปกติสายพานจะอยู่ในสภาพมีความตึง ซึ่งถ้าเกิดจากกรณีแบบนี้ เพียงรอให้แห้งก็จะมีสภาพปกติ ไม่ต้องซ่อมอะไร
กรณีที่ใช้ไฟมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้รถในยุคนี้ จะมีอุปกรณ์เสริมมากมาย เช่น กล้องหน้ารถ จีพีเอส ซึ่งต้องใช้ไฟ ยิ่งชั่วโมงไหนใช้พร้อมๆ กันหมด แล้วยังมีการชาร์จโทรศัพท์ เปิดไฟในรถ ใช้ไฟพร้อมๆ กัน นานๆ ไฟแบตเตอรี่อาจโชว์เตือน ทั้งนี้เพราะไฟชาร์จรับสภาวะการใช้ไฟของเราไม่ไหว หากเป็นกรณีเช่นนี้ เพียงเลิกการใช้ไฟก็จะกลับสู่สภาพเดิมได้
ในรถรุ่นที่มีไฟเตือนก็ดีไปอย่าง แต่เมื่อมีก็ต้องศึกษา เข้าใจสัญลักษณ์ที่รถยนต์แต่ละคันใช้ เราจะได้ไม่เข้าใจผิด และเสียเงินเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เพราะแค่ไดชาร์จมีปัญหา ก็แก้ให้ตรงจุดแค่นั้น เพราะหากว่าแบตเตอรี่เสื่อมนั้น ไฟเตือนจะไม่ขึ้น