โช้คอัพรถยนต์ วิธีตรวจเช็คสภาพของ โช้คอัพรถยนต์ เสียหรือมีปัญหาหรือไม่ อย่างไร
การทรงตัวของรถที่มีสมดุล รับแรงกระแทกเวลาปีนเนินหรือตกหลุมบ่อแล้วไม่กระเทือนมากขึ้นอยู่กับโช้คอัพรถยนต์ที่ดี ยังมีมาตรฐาน ไม่มีอาการเสื่อมอายุหรือเสีย ตามที่เราทราบกันดีว่าหน้าที่หลักของโช้คอัพรถยนต์ คือ หยุดการเต้นของคอยล์สปริง โดยอาศัยแรงต้านของน้ำมันที่ไหลผ่านช่องทางลูกสูบภายในกระบอกโช้คนั่นเอง
ส่วนใหญ่แล้ว อาการเสื่อมของโช้คอัพรถยนต์นั้นเกิดมาจากการเสื่อมของน้ำมันไฮโดรลิคที่อยู่ในกระบอกสูบ หากน้ำมันไฮโดรลิคหมดประสิทธิภาพ ทำให้ความหนืดลดลงหรือเกิดการรั่วซึมแล้วละก็ ทำให้โช้คอัพเสื่อม รับการใช้งานของตัวรถได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น มีข้อน่าสังเกตว่า แม้เป็นรถใช้แก๊ส โช้คอัพก็ต้องอาศัยน้ำมันเช่นกัน
เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงในการใช้รถ
เจ้าของรถจึงต้องคอยหมั่นสำรวจสภาพของโช้คอัพอยู่ตลอด วิธีสังเกตนั้น อาศัยดูจากสิ่งต่อไปนี้
- ทดสอบสภาพโช้คอัพ โดยการลองกดรถยนต์ด้านหน้าแล้วปล่อย ถ้าปล่อยแล้วตัวรถเด้งขึ้นลงหลายๆ ครั้งกว่าจะหยุด นั่นแสดงว่า โช้คอัพเริ่มเสื่อมสภาพ เพราะโช้คอัพรถยนต์ที่ดีเมื่อออกแรงกดจะยุบตัว แต่พอปล่อยมือจะต้องคืนกลับมาสู่ระดับปกติทันที ไม่มีการเด้งขึ้น เด้งลงหลายครั้ง
- รู้ได้จากการตรวจรอยรั่วของน้ำมันบริเวณซีลโช้คอัพ ซึ่งก่อนออกรถผู้ใช้ต้องคอยตรวจดูเสมออยู่แล้ว เมื่อพบเหตุผิดปกติมีคราบน้ำมันบริเวณแกนโช้คอัพ แสดงว่ามีการรั่วซึมเกิดขึ้นแล้ว
- โช้คอัพผิดรูปทรง เป็นอาการที่ชัดเจนเพราะเห็นตัวโช้คอัพมีรอยบุบ กระบอกโช้คบิด หรือแกนโช้คคด แต่จะทราบได้ก็ต้องมีการตรวจสอบอยู่เสมอ อย่ารอให้ส่งผลกับการทรงตัวของรถยนต์ก่อน
- ดูจากสภาพของดอกยาง ถ้าพบว่าหน้ายางสึก และเป็นการสึกเป็นบั้งๆ ข้อนี้รู้ได้โดยเอามือลูบหน้ายาง ถ้าเป็นการสึกเป็นบั้งลูบมาด้านหนึ่งจะพบว่าก็เรียบดี แต่พอลูบย้อนกลับจะรู้สึกสะดุด แสดงว่ามีปัญหาที่โช้คอัพรถแล้ว
- หลังการใช้รถ เมื่อจอดรถแล้วใช้มือสอดเข้าไปสัมผัสกับกระบอกโช้คอัพทันที ถ้าพบว่ากระบอกโช้คอัพร้อน แสดงว่า โช้คอัพทำงาน เพราะโช้คอัพนั้นทำงานโดยใช้ความหนืดของน้ำมันสร้างแรงเสียดทานควบคุมคอยล์สปริง เพื่อไม่ให้รถเด้งมาก กระบอกโช้คจะเกิดความร้อนขึ้น ดังนั้น ถ้าหลังใช้งาน เอามือสัมผัสกระบอกโช้คแล้วพบว่ามีอุณหภูมิปกติ นั่นแสดงว่าที่ขณะใช้รถโช้คอัพไม่ทำงาน
- สังเกตสภาพของรถขณะเริ่มออกตัว ถ้าใช้ความเร็วปกติแล้วหน้ารถเชิดขึ้น รวมถึงเวลาเบรกที่ความเร็วต่ำหน้ารถยังทิ่มลง แสดงว่า โช้คอัพรถยนต์มีปัญหาหรือเสื่อมสภาพแล้ว (หรือหากต้องการรู้เรื่องเเนวทางเเก้ไข ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ปัญหาโช้คอัพรถยนต์และแนวทางแก้ไข )
- สังเกตเวลาขับรถผ่านสันเนินเตี้ยๆ หรือพื้นที่ขรุขระ ถ้ารถเด้งขึ้นเด้งลงหลายครั้ง แสดงว่าโช้คไม่ดีแล้ว
- ดูการทรงตัวของรถขณะวิ่งด้วยความเร็วต่อเนื่อง 80 กิโลเมตร/ชั่วโมงเป็นต้นไป รถมีอาการร่อนไปตามแรงลมที่มาปะทะ สิ่งนี้เกิดจากโช้คอัพเริ่มเสื่อม
- เมื่อขับรถตกหลุมแล้วรถจะมีการโยนตัวมาก นั่นไม่ปกติแล้ว เพราะโดยทั่วไปโช้คอัพรถยนต์จะต้องช่วยประคองตัวรถเอาไว้ได้ เพราะถูกออกแบบมาเพื่อการนั้น
การซ่อมแซมหรือเปลี่ยนโช้คอัพรถยนต์
เมื่อตรวจพบความผิดปกติของโช้คอัพ ทราบว่าโช้คอัพเริ่มเสื่อม มีแนวโน้มว่าอาจเกิดอันตรายขณะขับรถยนต์ได้ เจ้าของรถต้องพิจารณาแล้วว่า จะซ่อมหรือจะเปลี่ยนโช้คใหม่ มาดูกันว่า แบบไหนเป็นอย่างไร
- การอัดโช้ค คือการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันภายในกระบอกโช้คใหม่ เพื่อยืดอายุการใช้งานโช้คอัพต่อไป หรือจะเปลี่ยนซิลยาง ก็อาจจะพอยืดอายุการใช้งานไปได้อีกสักระยะหนึ่ง แน่นอนว่า การซ่อมมีค่าใช้จ่ายซึ่งน้อยกว่าการเปลี่ยนโช้คอัพใหม่ แต่อายุการใช้งานอาจจะได้แค่ระยะสั้นมาก แล้วก็ต้องซ่อมอีก เจ้าของรถต้องคำนวณถึงความคุ้มค่าเอาเอง เพราะไม่แน่ว่า ซ่อมแล้วจะใช้ได้นานแค่ไหน คุ้มกับเงินและเวลาที่เสียไปหรือไม่
- การเปลี่ยนโช้คอัพรถยนต์ใหม่ ดูเหมือนจะดีที่สุด แต่ก็มีรายละเอียดที่ต้องคำนึงถึงเหมือนกัน เพราะเป็นการเปลี่ยนอะไหล่รถ ดังนั้น นอกจากยี่ห้อ ราคา ประเภทของโช้คอัพแล้ว ต้องพิจารณาเรื่อง “ช่วงชัก” หรือระยะการยืด-ยุบของตัวโช้คอัพด้วย รวมถึงลักษณะของหูโช้ค เพราะในท้องตลาดมีจำหน่ายหลายแบบ และถ้าต่างแบบก็อาจมีปัญหาเนื่องจากหูโช้คด้านบนกับด้านล่างไม่เหมือนกัน ซื้อมาเปลี่ยนแล้วใส่ไม่ได้ การเลือกซื้อที่ดีที่สุดก็คือ ให้ถอดเอาโช้คอัพของเดิมไปเทียบกับของใหม่ที่จะซื้อ เพราะหากซื้อมาผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถกระบะ เพราะขนาดของกระบอกโช้คอัพมีผลต่อการเคลื่อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถกระบะส่วนใหญ่ใช้ช่วงล่างแบบปีกนกคู่ โช้คอัพจะเสียบอยู่ระหว่างกลางปีกนกบน ถ้าเลือกโช้คอัพที่กระบอกใหญ่เกินไป ไม่พอดี เวลาที่ปีกนกเคลื่อนที่ โช้คอัพจะเสียดสีหรือกระทบกระแทกกับปีกนก เป็นเหตุให้โช้คอัพทำงานไม่สมบูรณ์และชำรุดก่อนเวลาอันควร
โช้คอัพรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับรถยนต์ เพราะมีส่วนต่อความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถทางไกลที่ต้องใช้ความเร็วในการขับ โช้คไม่ดี เจอแค่แรงลมมาปะทะแรงๆ รถก็ร่อน ควบคุมยากแล้ว ก่อนออกเดินทางทุกครั้งจึงควรตรวจเช็คสภาพโช้คอัพก่อน หากพบความเสื่อมแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่ควรดูเบา เพราะเรื่องเล็กน้อยอาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ความเสียหายที่ไม่คาดคิดได้