เทคนิคการดูแล รักษาแบตเตอรี่รถยนต์ และการชาร์จ
แบตเตอรี่อุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เราสตาร์ทรถ และในตอนที่เราใช้ไฟฟ้าในขณะที่ดับเครื่องยนต์ นอกจากนี้เมื่อรถในขณะทำงาน มันยังมีหน้าคอยช่วยเหลือ และขับเคลื่อนให้ตัวปั่นไฟให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราจึงต้องดูแล รักษาแบตเตอรี่รถยนต์ เป็นอย่างดี เพื่อคงความสมบรูณ์ของตัวปั่นไฟตลอดการใช้งาน
แบตเตอรี่หมด เข้าใจได้ง่านนั่นคือไม่สามารถทำหน้าที่ของมันได้แล้ว กล่าวคือไม่สามารถใช่สตาร์ทรถได้นั่นเอง บางครั้งการจอดรถทิ้งไว้นานก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดได้ เพราะแบตเตอรี่จะมีการรั่วซึมของกระแสไฟอยู่ตลอดเวลา ดังนี้หากไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานาน เราควรหมั่นมาคอยสตาร์ทเครื่องยนต์บ้างเป็นระยะ เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพเร็วของแบตเตอรี่ – ถ้าคุณสนใจเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่นิยมที่สุดในไทย >> http://thaiengine.org/แบตยี่ห้อไหนดี
การชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์
ส่วนมากแบตเตอรี่จะอ่านค่ากำลังไฟได้ที่ประมาณ 12.4 – 12.6 โวลต์ และกำลังไฟสำรองที่สามารถใช้ได้ประมาณ 9-15 ชั่วโมง อาจมีสามเหตุจากสภาพอากาศที่ร้อน หรือเย็นจนเกินไปทำให้มีการคายประจุไฟออกมาจนค่ากำลังลดต่ำลงมากกว่า 10.5 โวลต์ หรือการลืมเปิดไฟหน้าทิ้งไว้ เพราะฉะนั้นแล้วการชาร์จไฟแบตเตอรี่จึงมีความจำเป็น ดังนั้นแล้วเราจะมาดูวิธีการชาร์จแบตเตอรี่กันว่ามีวิธีไหนบ้าง
โดยทั่วไปแบตเตอรี่จะถูกชาร์จอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีการติดเครื่องยนต์ ในขณะที่ RPM สูงขึ้น ตัวปั่นไฟจะจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงตามขึ้นไปด้วย หากว่ามีการลดการใช้งานในอุปกรณ์อื่น ในกรณีนี้ไฟฟ้าก็จะถูกชาร์จเข้าสู่แบตเตอรี่มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์การชาร์จหลายอย่างที่เป็นเครื่องมือเฉพาะ ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องยนต์ หรือหากว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากรถคันอื่น โดยการขอต่อพ่วงสายจั๊มพ์ก็ได้
ในกรณีที่แบตเตอรี่หมดสนิท เราจะทำการชาร์จโดยใช้อุปกรณ์ภายนอก เครื่องมือเหล่านี้เป็น กระแสไฟฟ้าแบบ AC มันสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า 12V DC ได้ ซึ่งเป็นกระแสไฟฟ้าแรงดันต่ำ หากว่าแบตเตอรี่ไม่มีกำลัง หรือไฟหมดสนิท เราไม่ควรใช้การชาร์จด้วยกำลังไฟแรงดันสูง เนื่องจากมันอาจไปเพิ่มการไหลออกของแก๊สไฮเดรเจน อันเป็นสามารถสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่ระเบิดได้ ควรตรวจสอบให้ดีก่อนการชาร์จทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเอง
ในระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่ สิ่งที่สำคัญเราควรปิดอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดที่ต้องการใช้กำลังไฟ โดยส่วนมากแล้ว การชาร์จแบตเตอรี่ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นเมื่อรถสตาร์ทติด ตัวปั่นไฟจะทำหน้าที่ในการต่อเองโดยอัตโนมัติ แต่อย่างไรก็ดีตัวปั่นไฟไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการชาร์จกระแสไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ ดังนั้นควรมีการชาร์จสำรองเอาไว้ตลอดเวลา เมื่อท่านรู้แบตเตอรี่ของท่านเริ่มมีการเสื่อมสภาพ และไม่สามารถรักษากำลังได้คงที่อีกต่อไป
วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่
ถือว่าเป็นเรื่องง่ายๆ ในการดูแลแบตเตอรี่ของท่านให้สามารถใช้งานได้ตลอดอายุการใช้งาน อย่างแรกๆ ที่เรามักหลงลืม คือการตรวจเช็คเมื่อเครื่องยนต์ดับสนิท ว่ามีการลืมเปิดอุปกรณ์การใช้ไฟฟ้าทิ้งไว้หรือไม่ เช่นไฟฟ้าหน้ารถ โดยส่วนมากปัญหาแบตเตอรี่หมดจะมาจากลืมเปิดไฟหน้าทิ้งไว้ทั้งคืนนั่นเอง นอกจากนี้เรายังสามารถได้อีกหลายวิธีเช่น การตรวจสอบความถ่วงจำเพาะด้วยอิเล็กโทรไลต์
สารอิเล็กโทรไลต์ คือสารประกอบในกรดไฮโดรคลอริก ในส่วนของน้ำต้องถูกปิดเอาไว้อย่างมิดชิดด้วยแผ่นตะกั่วในทุกๆ เซลล์ หากว่าไม่มีการปิดแผ่นตะกั่ว และเมื่อมันสัมผัสกับอากาศอาจเกิดปฏิกิริยาต่างๆ ที่ไม่เป็นผลดีกับแบตเตอรี่ได้ และอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมากมายโดยเฉพาะในเรื่องความเสื่อมจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
แบตเตอรี่รักษาแบตเตอรี่ของท่านอย่างถูกวิธี ใส่ใจในทุกการใช้งาน ย่อมทำให้แบตเตอรี่ของท่านคงสภาพสมบูรณ์ และอยู่คู่กับรถไปตลอดการใช้งาน จนถึงวันสิ้นอายุ ติดตามบทความอันเป็นสารประโยชน์มากมายเกี่ยวกับแบตเตอรี่ได้ที่นี่ ที่เดียวที่เจาะลึกทุกรายเอียด พร้อมทั้งข้อมูล วิธีการเสนอแนะ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ท่านได้ประโยชน์จากการงานแบตเตอรี่มากที่สุด ขอบคุณครับ
