ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ราคา และประเภทของเครื่องถ่วงล้อ ข้อมูลน่ารู้ ก่อนตั้งศูนย์ล้อ
ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ – สำหรับคนที่ใช้รถยนต์นอกจากเรื่องดูแลรถประจำวันแล้ว ยังต้องมีความรู้ในเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้ดำเนินการได้ถูกต้อง จะได้ขับรถอย่างปลอดภัย อย่างเรื่องการตั้งศูนย์ถ่วงล้อก็เช่นกัน คนที่เริ่มขับรถใหม่ๆ อาจไม่มีความรู้และมองว่าไม่ใช่เรื่องที่ตนเองน่าจะเกี่ยวข้อง แน่นอนว่า ถ้าเป็นรถออกใหม่ เรื่องนี้ก็ไม่จำเป็น แต่เมื่อคุณใช้รถไปแล้วสักระยะหนึ่ง ยังมีอีกหลายเรื่องที่คุณต้องมีความรู้ เพื่อที่จะไม่พลาด ไม่เกิดการรับคำแนะนำและทำตามอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ซึ่งมีเกิดขึ้นได้ ทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับรถและการใช้รถของคุณ มีความรู้ด้วยตัวเองไม่พึ่งคำแนะนำของศูนย์หรือช่างอย่างเดียวเป็นดีที่สุด เพราะรถก็รถคุณ ค่าใช้จ่ายก็ของคุณ ความปลอดภัยก็ตัวคุณและคนที่คุณรัก อย่าฝากความหวังไว้ที่คนอื่น
เรื่องตั้งศูนย์ถ่วงล้อก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนใช้รถควรรู้ หรือต้องรู้ทีเดียว เนื่องจากเมื่อใช้รถไปสักระยะ คือ 10,000 กิโลเมตร จะต้องมีการสลับยาง และไปเปลี่ยนยางเลยเมื่อผ่านการใช้ไป 50,000 กิโลเมตร เหตุผลก็คือ การใช้รถโดยทั่วไปแล้ว แรงสั่นสะเทือน การเสียดสี ของล้อแต่ละข้างอาจมีไม่เท่ากัน การได้สลับปรับเปลี่ยนข้างเพื่อสร้างความสมดุลในการใช้
และกรณีเมื่อต้องเปลี่ยนล้อก็ต้องรีบเปลี่ยน อย่าฝืนใช้เกินกำหนด และมีอีกเรื่องที่ต้องทำหลังเปลี่ยนล้อก็คือ การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ถามว่าไม่ทำได้ไหม? คงต้องตอบว่า ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะผลข้างเคียงจะตามมาเป็นพรวน ตั้งแต่ล้อมีความสั่นสะเทือน ยางสึกเร็ว พวงมาลัยสั่น บังคับรถได้ไม่เต็มที่ และมีผลต่อเนื่องถึงความเสียหายของรถช่วงล่างเลยทีเดียว รู้คร่าวๆ อย่างนี้ คงไม่ปฏิเสธว่า การตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์นั้นคือสิ่งที่ต้องทำ
การตั้งศูนย์ถ่วงล้อรถยนต์
การใช้รถยนต์อย่างปล่อยปละละเลย ไม่มีความรู้อะไรเลยนอกจากการขับนั้น มีแนวโน้มจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าที่ควรจะเป็นแน่นอน เช่นเรื่องนี้ ยางรถยนต์ คุณต้องทราบว่า มวลของยางแต่ละเส้นนั้น ไม่ได้มีความหนาแน่นเท่ากันทุกจุดของเส้นรอบวง ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมไม่ผลิตออกมาให้มีความหนาแน่นเท่ากันเสียเลย เอาเป็นว่า เพราะเป็นเช่นนั้นจึงทำให้ต้องตั้งศูนย์ถ่วงใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนยางรถ เพราะถ้าไม่ทำ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ความไม่สมดุลของล้อ
ความไม่สมดุลนั้น มีทั้งแบบสแตติคและแบบไดนามิค
- ความไม่สมดุลแบบสแตติค สภาพทั่วไปคือ แรงหนีศูนย์กลาง วิธีแก้ไข สามารถทำได้โดยใช้น้ำหนักมาถ่วงเข้ากับล้อในขนาดที่เท่ากับน้ำหนักส่วนเกิน ในตำแหน่งตรงข้ามกัน 180 องศาเพื่อความสมดุล
- ความไม่สมดุลแบบไดนามิค สิ่งที่ทำให้เกิดไม่สมดุลแบบนี้คือ แรงบิด วิธีแก้ไขคือ ใช้น้ำหนักถ่วงขนาดเท่ากันอีก 2 ก้อน มาติดกับล้อโดยติดด้านละก้อนและอยู่ตรงกันข้ามกัน 180 องศา ตรงตำแหน่งคู่ที่สมดุล
ความไม่สมดุลทั้งสองแบบดังกล่าว เป็นเหตุให้ล้อรถยนต์เด้งขึ้นลงหรือมีอาการส่าย การตั้งศูนย์ถ่วงล้อเป็นการทำให้เกิดสมดุลขึ้นกับล้อ ทำให้ล้อหมุนได้สม่ำเสมอไม่สั่นหรือส่ายไปมานั่นเอง
จริงอยู่ที่ว่า ความรู้เหล่านี้เป็นในแง่ของรายละเอียด แต่ผู้ใช้รถก็ควรรู้เอาไว้บ้างเพื่อเวลาที่ได้คุยกับช่างจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และรู้สภาพที่แท้จริง สิ่งที่ควรปรับควรทำว่า มีมากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่ฟังจากช่างอย่างเดียว แม้ว่าเราจะไม่ใช่คนที่ลงมือทำเองในทุกเรื่อง แต่การมีความรู้ ความเข้าใจ อย่างน้อยก็เป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ใครมาหลอกเอาได้ ซึ่งยังไงก็ต้องเป็นเรื่องดี และไหนๆ ก็จะรู้แล้ว มารู้ให้ลึกขึ้นอีกนิดถึงประเภทของเครื่องถ่วงล้อกันดีกว่า
ประเภทของเครื่องถ่วงล้อ
เครื่องถ่วงล้อนั้นมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ
- เครื่องถ่วงล้อแบบสแตติค แบบนี้ใช้ในอดีต ซึ่งปัจจุบันหายากแล้ว
- เครื่องถ่วงล้อแบบถอดยางออกจากล้อ (Off The Car Balance) ปัจจุบันใช้แบบนี้เป็นส่วนใหญ่ ทำการถ่วงล้อโดยนำล้อและยางมาขึ้นเครื่องถ่วง แล้วจะมีเกจ์บอกตำแหน่งและน้ำหนักที่จะต้องติดตะกั่วถ่วง ว่าตรงไหน แค่ไหนจึงจะสมดุล
- เครื่องถ่วงล้อแบบถ่วงขณะยางติดกับรถ (On The Car Balance) หรือที่เรียกว่า “การถ่วงล้อแบบจี้” สามารถถ่วงล้อได้เลยโดยไม่ต้องถอดยางออกจากตัวรถ ข้อดีของเครื่องประเภทนี้ คือ สามารถถ่วงล้อได้ทั้งระบบ ทั้งชุดดุมล้อ เบรค ทำให้ตัดปัญหาเรื่องการสั่นที่เกิดจากชิ้นส่วนอื่นนอกจากล้อและยางได้ด้วย แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือ ราคาแพงกว่าการถ่วงล้อแบบถอด และคนทำก็ต้องมีความสามารถเฉพาะที่จะสังเกตอาการสั่นของล้อขณะที่ตัวล้อหมุน ไปจี้กับแก้มยาง ช่างที่ช่างสังเกตและแม่นก็จะทำการถ่วงแก้ไขให้สมดุลได้ถูกต้อง
การตั้งศูนย์ล้อ ให้มุมตรงกัน
เมื่อถ่วงล้อเสร็จแล้วจึงตั้งศูนย์ คือการตั้งมุมต่างของล้อรถ โดยเฉพาะล้อหน้าต้องตั้งค่าให้ได้มาตรฐานของโรงงานผลิต การควบคุมรถจึงจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และต้องเข้าใจว่า เมื่อวิ่งไปได้ประมาณ 10,000 กิโลเมตร ก็จะทำให้ค่าของมุมล้อเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อีก เนื่องจากการขับขี่บนถนน สภาพถนนโดยเฉพาะของบ้านเรา ไม่ได้เรียบตลอดเส้นทาง
แต่หากพบว่า การตั้งศูนย์ถ่วงล้อแบบธรรมดาแล้ว แต่ล้อก็ยังไม่หายสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นนี้อาจเกิดจากความไม่สมดุลของชิ้นส่วนอื่น เช่น จานเบรก เพลาขับ ลูกปืน ก็ได้
ราคาตั้งศูนย์ถ่วงล้อ
ราตั้งศูนย์ถ่วงล้อสำหรับ 2 ล้อ ราคาจะอยู่ประมาณ 200-300 บาท , ส่วน 4 ล้อจะอยู่ที่ 400-500 บาท ส่วนการถ่วงล้อจะตกอยู่ที่ 50- 100 บาท ต่อล้อครับ