ตัวแปลงไฟรถยนต์ กินแบตเตอรี่ จริงหรือ?

0
8297
ตัวแปลงไฟรถยนต์

ตัวแปลงไฟรถยนต์ กินแบตเตอรี่ จริงหรือ?


ตัวแปลงไฟแบตเตอรี่รถยนต์ ตัวแปลงไฟรถยนต์
หลายคนซื้อตัวแปลงไฟมา เพื่อหวังจะนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆนานาๆ แต่พอรู้ว่า ตัวแปลงไฟรถยนต์ คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการลดลงของประจุแบตเตอรี่ ทำให้หลายคนคิดไปว่า ตัวแปลงไฟคือตัวกินไฟ จึงเกิดคำถามมากมายที่ว่า จริงหรือที่ตัวแปลงไฟรถยนต์กินแบตเตอรี่ ซึ่งปัญหาและคำถามนี้ ได้ถูกตั้งและได้ตอบกันไปนานแล้ว แต่ด้วยความที่หลายคนยังไม่เข้าใจ วันนี้จึงจะมาอธิบายว่าข้อเท็จจริง มันเป็นยังไง


การทำงานของตัวแปลงไฟรถยนต์

ตัวแปลงไฟรถยนต์จะทำงานโดยการแปลงไฟฟ้ากระแสสลับจากแหล่งจ่ายไฟ (เช่น แบตเตอรี่) ให้เป็นกระแสตรง จากนั้นจะไปเข้าวงจรคอนเวอร์เตอร์ซึ่งมีหน้าแปลงกระแส ทำให้เปลี่ยนเป็นกระแสสลับอีกครั้งหนึ่ง แต่จะสามารถปรับเปลี่ยนขนาดแรงดันและความถี่ได้ ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับการเข้าแคมป์ ที่ต้องการการใช้ไฟหลากหลายรูปแบบ

 สาเหตุและปัจจัยหลักแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ

  1. แบตเตอรี่กำลังหมดระหว่างที่เครื่องยนต์กำลังทำงานอยู่

    แบตเตอรี่กำลังหมด ตัวแปลงไฟรถยนต์

ขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน แบตเตอรี่จะจ่ายกำลังไฟไปยังระบบไฟฟ้า ซึ่งจะไปทำงานที่ตัวปั่นไปที่ต้องการแรงดันแบตเตอรี่เพื่อที่จะให้ตัวปั่นไฟทำงาน ตัวปั่นไฟก็จะส่งกระแสไปให้ วิทยุ เครื่องเสียง ทำงาน  เมื่อส่งกระแสไฟได้ตามปกติแบตเตอรี่จะจ่ายไฟจำนวนหนึ่งไว้ให้กับเครื่องเสียง วิทยุ และไฟหน้า และที่เหลือจะแบ่งไว้ให้ตัวแปลงไฟรถยนต์

มาถึงสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดไวขณะขับรถ ก็มาจากความผิดปกติของตัวแปลงไฟรถยนต์ที่ทำงานผิดพลาด ทำให้ไม่สามารถกระจายไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึง ทำให้เกิดความผิดทางด้านไฟฟ้าเกิดผลให้เข้าสู่สถานการณ์ขาดกระแสไฟฟ้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเห็นได้ชัดที่หน้าปัด ถ้าไฟหน้าปัดหรี่ลง นั่นแสดงว่าแบตเตอรี่เหลือน้อยลงแล้วล่ะ

ถ้ายังฝืนขับรถต่อไปละก็ จะทำให้แบตเตอรี่หมดและไม่มีกำลังการทำงานพอที่จะไปทำให้ระบบไฟฟ้าในรถทำงานได้แบบปกติ อาจจะส่งผลทำให้การขับรถของเรามีปัญหาและเครื่องยนต์ก็จะดับไปในที่สุด

ถ้าแบตเตอรี่หมดก็จำทำให้เกิดปัญหาตามมา สามารถแก้ไขได้โดยการเพิ่มแบตเตอรี่อีกก้อนหรือซื้อแบบคู่มาใช้ เพื่อการใช้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้มากขึ้น สำหรับสาเหตุที่แบตเตอรี่หมดขณะขับรถแล้วไปเกี่ยวกับตัวแปลงไฟรถยนต์ สามารถตอบได้ว่า จริงครึ่งไม่จริงครึ่ง จริงเพราะมันเกิดจากความผิดปกติของตัวแปลงไฟรถยนต์ ไม่จริงตรงที่ถ้าตัวแปลงไฟทำงานปกติ ปัญหานี้ก็ไม่เกิดแน่นอน – คุณจะเลือกแบตเตอรี่รถยนต์ ไหนดี

  1. แบตเตอรี่หมดขณะที่เครื่องยนต์ดับอยู่

    แบตเตอรี่หมดขณะเครื่องดับอยู่ ตัวแปลงไฟรถยนต์

ก่อนอื่นต้องเช็คก่อนเลยว่า ไฟหน้าลืมปิดไว้หรือเปล่า เพราะหน้าที่หลักของแบตเตอรี่คือการเตรียมกำลังไฟให้ไฟหน้า ถ้าเปิดไฟหน้าทิ้งไว้ทั้งคืน ก็จะทำให้แบตเตอรี่หมดไวขึ้น ดังนั้นแทนที่จะไปโทษตัวแปลงไฟ ก็ขอให้ไปเช็คซะก่อนว่าลืมปิดไฟหรือเปล่า

ตัวแปลงไฟในรถยนต์ บางตัวต้องมีความสามารถในการบล็อกแรงดันแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่ปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ต่ำ ในขณะที่ใช้ตัวแปลงไฟอยู่ ทำให้เวลาจะสตาร์ทรถ ไม่สามารถสตาร์ทได้ เพราะการสตาร์ทจะต้องใช้ปริมาณกระแสไฟที่สูงมากในการเรียกแต่ละส่วนของเครื่องยนต์ให้ติด พร้อมใช้งาน

การชาร์จไฟเป็นประจำก็สามารถช่วยให้เราไม่ต้องไปกังวลกับเจ้าตัวแปลงไฟนี้ได้ เพราะการสูญเสียกำลังไฟอันเนื่องที่มาจากตัวแปลงไฟนั้นส่วนใหญ่จะเกิดจากแบตเตอรี่ที่เก่าหรือมีอายุการใช้งานที่นานมาแล้ว อีกทางหนึ่งก็คือซื้อแบตเตอรี่เพิ่ม ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่ลดช้าลง เพราะมีจำนวนประจุแบตเตอรี่เพิ่มจากเดิมถึง 2 เท่า ทำให้ขจัดปัญหานี้ไปได้

ถ้าใครไม่มีปัญหา ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ตัวแปลงไฟ หรือใช้งานแค่นานๆครั้ง ก็แนะนำให้ถอดมันซะ เพราะมันไม่มีผลกับตอบขับรถ แต่มันส่งผลกับตอนเมื่อเราจอดรถอยู่นี่แหละ ดังนั้น “ถอด” ดีที่สุด
ตัวแปลงไฟรถยนต์
ปัญหาของแบตเตอรี่รถกับตัวแปลงไฟรถยนต์ก็เป็นปัญหาเก่าที่เจอกันประจำ แต่ไม่รู้จะแก้ไขมันยังไง ซึ่งวันนี้เราก็ได้รู้ถึงสาเหตุและการแก้ไขไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปปรับใช้และนำไปบอกต่อกับเพื่อนๆ คนรู้จักที่เจอปัญหานี้ สำหรับการตรวจเช็ค ก็ยังถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทราบถึงปัญหาของรถว่าเป็นอะไร ซึ่งรถเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะมีชิ้นส่วนมากมาย แต่ถ้าเราใส่ใจมันละก็ ไม่เกินความสามารถที่จะดูแลมันแน่นอน