ข้อควรระวัง เรื่อง “แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด”

0
47555
แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด

ข้อควรระวัง เรื่อง “ แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด ”


ปัจจุบันข่าวที่เกี่ยวกับการระเบิดของแบตเตอรี่ก็มีออกมามากมาย ทั้งวงการโทรศัพท์ วงการคอมพิวเตอร์ก็มีข่าวออกมาให้เห็นกันอยู่ประจำ และข่าวเกี่ยวกับ แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด ก็ยังมีให้เห็นไม่น้อยไปกว่าวงการอื่นเลย โดยสาเหตุส่วนใหญ่จะมาจากสิ่งง่ายๆที่ละเลยกัน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน

สาเหตุหลักของแบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด

พ่วงแบตเตอรี่ แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด
ระบบแบตเตอรี่ที่เราใช้อยู่ทุกวัน เป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่ซับซ้อนละเอียดลอออะไรมากมายนัก และการผลิตแบตเตอรี่ตะกั่ว-กรดก็ได้สร้างมามากกว่า 100 ปีแล้ว ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการระเบิดก็มาจาก สายจั้ม ซึ่งหลายคนต่อไม่เป็นก็ต่อแบบผิดวิธี และนั่นแหละที่ส่งผลให้เกิดการระเบิดตามที่เป็นข่าว

สิ่งที่กำลังจะอธิบายต่อไปนี้ไม่ใช้ข่าวลือหรือเรื่องเล่าใดๆทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้คือข้อมูลจริงที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยเฉพาะการต่อสายจั้มแบบผิดๆ ที่นำมาสู่หายนะของแบตเตอรี่ หรือการใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่แบบผิดๆ ที่ทำให้เกิดอันตรายและการระเบิดของแบตเตอรี่มานักต่อนัก ซึ่งถ้าผู้ขับขี่รถเสียสละเวลาเล็กน้อยเพื่ออ่าน และทำความเข้าใจในบทความนี้ในเหตุผลของการระเบิด และแนวทางการป้องกันที่ควรรู้ นั่นจะทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกลัวกังวลกับปัญหานี้อีกต่อไป


การต่อสายจั๊มหรือเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ “แบบปลอดภัย”

การต่อสายจั๊ม แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด
หลักการต่อสายจั้มอย่างปลอดภัยมีอยู่ไม่กี่ขั้นตอน แต่ก็มีวิธีลัดที่สามารถนำมาใช้ในการต่อสายจั้มได้เหมือนกัน ดังนั้นถ้าเราจะต่อสายจั้มเองหรือให้คนอื่นต่อให้ก็ตาม สิ่งแรกที่ควรทำเลยก็คือ อ่านคู่มือหรือวิธีการต่อสายจั้มแบบละเอียด เพื่อป้องกันอันตราย และเพื่อให้แน่ใจว่ารถยนต์ของเราไม่มีจุดอื่นให้เชื่อมต่อได้นอกจากจุดที่ต่อกับแบตเตอรี่

ซึ่งมีรถยนต์หลายประเภทที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่ในจุดที่ลึกลับแปลกกว่าประเภทอื่น เช่น ติดตั้งอยู่ในกระโปรงหลังท้ายรถ หรืออยู่ในซุ้มใกล้ล้อหน้ารถ การต่อสายจั้มจึงควรใช้กล่องพักสายไฟ หรือไม่ก็การต่อสายแบบอื่น

คำแนะนำพื้นฐานที่สำคัญมากๆในการต่อสายจั้มคือ ต่อขั้วเดียวกันเข้าหากัน ขั้วบวกกับขั้วบวก ขั้วลบกับขั้วลบ อย่าไปต่อสลับกัน เพราะอาจจะทำให้เกิดประกายไฟ และตามมาด้วยการระเบิดนั่นเอง


ขั้นตอนการต่อสายจั้มแบบละเอียด

จั๊มสตาร์ท แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด
การต่อสายจั้มแบบคร่าวๆก็ได้บอกไว้แล้ว แต่ก็อาจจะมีคนสงสัยและอยากได้ขั้นตอนที่ละเอียดกว่านี้ ซึ่งหัวข้อนี้จะบอกการต่อสายจั้มแบบละเอียดให้ได้อ่านกัน ดังนี้

  1. ดูให้แน่ใจว่าได้ปิดกุญแจเครื่องยนต์ไว้แล้ว
  2. ต่อสายจั้มเส้นหนึ่งกับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ที่ให้ประจุ
  3. ต่อสายจั้มเส้นเดียวกัน กับขั้วบวก (+) ของแบตเตอรี่ที่หมดประจุ
  4. ต่อสายจั้มอีกเส้นกับขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ที่ให้ประจุ
  5. ต่อปลายสายเส้นนั้นเข้ากับโครงสร้างรถยนต์ที่ไม่ใช่เหล็ก เพื่อเป็นการป้องกันไฟฟ้ารั่ว (คล้ายๆต่อสายดิน)

แบตเตอรี่เกือบทุกประเภทจะใช้การต่อแบบดังกล่าวเกือบทั้งหมด แต่ในบางกรณีก็สามารถต่อขั้วลบเข้ากับขั้วลบได้เลย ไม่ต้องไปต่อกับแผ่นกราว แต่เพื่อความปลอดภัย ต่อกับตัวเครื่องยนต์ดีที่สุด เพื่อป้องกันไฟรั่ว และป้องกันการระเบิดที่อาจจะเกิดขึ้น


การระเบิดของแบตเตอรี่รถยนต์ตามหลักวิทยาศาสตร์

แบตเตอรี่ระเบิด แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด
อันตรายที่เกิดจากการะเบิดของแบตเตอรี่มาจากปฏิกิริยาของตะกั่วและกรดซัลฟิวริกในแบตเตอรี่ เพราะในกระบวนการถ่ายประจุของแบตเตอรี่ ได้มีการผลิตไฮโดรเจนจำนวนหนึ่งอยู่ด้วย และด้วยความที่โดรเจนเป็นสารที่ไวไฟสูงมากๆ จึงทำให้มีโอกาสที่จะติดไฟได้ง่าย เพราะไฮโดรเจนจะสะสมอยู่แบตเตอรี่ จากน้อยไปเป็นมาก และเมื่อกำลังไฟของแบตเตอรี่อยู่ระดับที่ผิดปกติเมื่อไร จะเกิดประกายไฟขึ้นมาและทำให้ไปผสมกับไฮโดรเจนและออกซิเจนจนเกิดการระเบิดออกมา

ไม่อยากให้แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด

จุดติดไฟในแบตเตอรี่มีอยู่ 2 จุดที่เป็นอันตราย และถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยง ดังนี้

  1. จุดเชื่อมสายจั้ม อาจจะเกิดประกายไฟได้เมื่อไม่ได้ต่อสายจั้ม หรือสายถ่ายประจุ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราต้องต่อขั้วลบเข้ากับโครงสร้างเครื่องยนต์ ก็เพราะว่าถ้าต่อเข้ากับขั้วลบด้วยกัน อาจเกิดการรั่วของไฮโดรเจนและเกิดการตกค้าง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดประกายไฟและการระเบิดได้ด้วย
  2. ตัวแบตเตอรี่เอง ตัวแบตเตอรี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เกิดการระเบิดซะเองได้ ทั้งนี้การระเบิดจะเกิดขึ้นจากการที่แบตเตอรี่ไม่ได้การดูแลที่เหมาะสม จึงทำให้ระดับสารละลายอิเล็กโทรไลท์ในแบตเตอรี่ลดลง จนแผ่นตะกั่วได้สัมผัสออกซิเจนภายนอกที่เข้ามาแทนที่สารละลาย ซึ่งทำให้แผ่นตะกั่วงอ และแผ่นตะกั่วที่งอนี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดไฟ เพราะแผ่นตะกั่วที่งอจะนำไปสู่การสัมผัสกับตะกั่วด้วยกันเอง ซึ่งก็มีประจุเหมือนกันทำให้เกิดประกายไฟ และยิ่งไปเจอกับไฮโดรเจนในแบตเตอรี่ด้วยแล้ว โอกาสที่จะเกิดการระเบิดมีอยู่สูงมากเลยทีเดียว

มีแบตเตอรี่แบบไม่ต้องดูแลรักษาไหม?

แบตเตอรี่ VRLA แบตเตอรี่รถยนต์ระเบิด
หลายคนที่อ่านก็คงจะมีความคิดที่อยากได้แบตเตอรี่ไม่ที่ต้องดูแลรักษา อาจจะด้วยไม่มีเวลาไปดูแลหรือไม่ค่อยรู้เรื่องรถยนต์ เราก็มี 2 ทางเลือกให้ตัดสินใจถึงข้อดีและข้อเสียมาให้ได้ดูกัน

  1. แบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้ง แบตเตอรี่ประเภทนี้มาจากแบตเตอรี่แบบเก่า ที่ทำจากตะกั่วและกรด ซึ่งไม่สามารถชาร์จไฟได้ คือถ้าใช้ไฟหมด ก็ทิ้งและซื้อใหม่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ยุ่งยาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสียเวลาที่ต้องซื้อบ่อยๆ นั่นแหละ
  2. แบตเตอรี่ VRLA หรือแบตเตอรี่แบบมีวาล์วระบายแรงดันภายใน โดยแบตเตอรี่ประเภทนี้จะอยู่ในรูปของเหลวที่อิ่มตัวหรือเจล ซึ่งจะไม่เกิดการะเหยใดๆทั้งสิ้น และไม่ต้องเติมสารละลายอิเล็กโทรไลท์เพิ่ม เพราะสารละลายได้อยู่ในรูปของเจลเรียบร้อยแล้ว และโอกาสที่แบตเตอรี่ชนิดนี้จะระเบิดมีอยู่ต่ำมากๆ แต่ราคาก็ถือว่าแพงกว่าแบตเตอรี่แบบธรรมดาอยู่หลายเท่า และอายุการใช้งานที่ต่างกันไม่เท่าไร ซึ่งใครที่มีงบพอเหลือใช้แล้วละก็ แบตเตอรี่แบบ VRLA ถือเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว

ทีนี้เมื่อได้รู้ข้อมูลแล้ว ก็ไม่ต้องไปกลัวว่าแบตเตอรี่จะระเบิดอีกต่อไป เพราะการป้องกันที่ดีจะทำให้รักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ไว้ได้นานและดีที่สุด และถึงแม้ว่าแบตเตอรี่แบบที่ใช้อยู่ทุกวันจะมีโอกาสระเบิดได้ ก็ยังมีแบตเตอรี่อีกหลายชนิดที่พร้อมรองรับการใช้งานของเราอยู่เสมอ อยู่ที่เราเลือกแล้วล่ะ! –  (ถ้าคุณสนใจเกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่นิยมที่สุดในไทย >> แบตเตอรี่รถยนต์ยี่ห้อไหนดี)